ครูปฐมวัยกับบทบาทที่ AI ไม่อาจทดแทน

ในโลกที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มีอิทธิพลต่อมนุษย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรือ AI ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เด็กเจนเนอเรชั่นใหม่ทั้งอัลฟ่าและเบต้าจึงเติบโตขึ้นมาในโลกที่รายล้อมด้วยความทันสมัยและเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง แต่ถึงแม้เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมทั้ง AI จะเข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตยุคใหม่เพียงใด ครูปฐมวัยยังคงมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานและเตรียมความพร้อมให้แก่นักเรียนวัยอนุบาล ทั้งเจนอัลฟ่าในปัจจุบันและเจนเบต้าในอนาคต

การดูแลความต้องการพื้นฐานของนักเรียนคือหนึ่งในเรื่องที่ AI ไม่อาจแทนที่ครูได้ แม้ว่าทุกวันนี้ AI Chatbot จะพูดคุยถามตอบได้อย่างชาญฉลาด ทั้งยังสามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจผ่านตัวหนังสือ แต่การสนับสนุนความต้องการพื้นฐานทางกายและใจยังคงเป็นหน้าที่สำคัญของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูปฐมวัยที่ต้องดูแลเด็กเล็ก ซึ่งต้องอาศัยความใกล้ชิดและประสบการณ์ในการทำความเข้าใจเด็ก เข้าถึงนักเรียนด้วยความเมตตาและเอาใจใส่

อีกหนึ่งตัวอย่างบทบาทสำคัญของครูปฐมวัย คือ การพัฒนานักเรียนแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ที่ต้องอาศัยการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูและนักเรียนเป็นฐานในการพัฒนา และแน่นอนว่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างมนุษย์นั้น AI ไม่อาจแทนที่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคมที่ครูคือผู้ส่งเสริมและเป็นแบบอย่างให้แก่นักเรียน รวมไปถึงการพัฒนาร่างกายทั้งทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กที่พัฒนาผ่านการเล่น ก็มีครูเป็นคนสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่เล่นอันปลอดภัยให้แก่เด็ก ๆ รวมทั้งคอยอยู่เคียงข้างในการเรียนรู้สำรวจโลกรอบตัว

นอกจากนี้ การรู้จักปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงก็เป็นอีกทักษะสำคัญของมนุษย์ แต่ทักษะนี้อาจต้องเริ่มต้นที่ตัวคุณครูเองก่อน เนื่องด้วยยุคสมัยของเด็กเจนใหม่คือยุคที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิตอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ครูปฐมวัยยุคใหม่จึงต้องเรียนรู้การใช้ AI อย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ เพื่อที่ครูจะได้ควบคุมดูแลและปลูกฝังการใช้งาน AI อย่างมีวิจารณญาณให้แก่นักเรียนต่อไปได้ และคณะการศึกษาปฐมวัยก็ได้ส่งเสริมให้นักศึกษาว่าที่ครูในอนาคตได้ลองใช้เครื่องมือ AI ตามความเหมาะสม ส่วนจะนำมาใช้อย่างไรนั้นจะขอบอกเล่าในโอกาสต่อไป