SPEAK – เครื่องมือประเมินความคาดหวังและความรู้ผู้ใหญ่ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย

• ความเชื่อเกี่ยวกับสติปัญญา (Mindset): SPEAK ประเมินว่าผู้ดูแลเชื่อหรือไม่ว่าสติปัญญาเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงได้ (incremental mindset) งานวิจัยชี้ว่าผู้ที่เชื่อเช่นนี้มักจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาที่มีคุณภาพสูงกว่า ต่างจากผู้ที่เชื่อว่าสติปัญญาเป็นสิ่งที่คงที่ ซึ่งอาจมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการน้อยกว่า
• ความสำคัญของสภาพแวดล้อมช่วงต้น (Early Environments and Experiences): เครื่องมือนี้สำรวจว่าผู้ดูแลเข้าใจหรือไม่ว่าการเจริญเติบโตของสมองอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีแรกของชีวิต ถือเป็นช่วงเวลาวิกฤตสำหรับการเรียนรู้ภาษา และคุณภาพของสภาพแวดล้อมทางภาษามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ภาษาของทารกในช่วงเวลาสำคัญนี้
• การปฏิสัมพันธ์แบบตอบสนอง (Responsive Interactions): SPEAK ประเมินความตระหนักของผู้ดูแลถึงความสำคัญของการ “Tune in” เข้ากับพฤติกรรมการสื่อสารของเด็กอย่างละเอียดอ่อน และการมีส่วนร่วมในการ “ผลัดกันพูดคุย (Take tune)” ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาอย่างมีนัยสำคัญ
• ผลกระทบของสื่อดิจิทัล (Perceived Impact of Media Exposure): เครื่องมือนี้สำรวจความเข้าใจของผู้ดูแลเกี่ยวกับประโยชน์และข้อจำกัดของการใช้สื่อสำหรับเด็กเล็ก งานวิจัยได้ให้ข้อบ่งชี้ว่าการรับชมโทรทัศน์โดยไม่มีการโต้ตอบจากผู้ใหญ่ไม่ได้มีประโยชน์ด้านการศึกษาหรือภาษาสำหรับเด็กในวัยนี้ และการได้รับสื่อมากเกินไปอาจลดการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง-เด็ก รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการ

• เป็นเครื่องมือวิจัย: ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจกลไกที่เชื่อมโยงความรู้ของผู้ใหญ่กับการสื่อสารภาษาที่เด็กได้รับในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็กในระยะยาว
• เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ปฏิบัติงาน: บุคลากรทางการแพทย์ นักการศึกษาปฐมวัย และผู้ให้บริการสามารถใช้ SPEAK เพื่อประเมินความเข้าใจพื้นฐานของผู้ปกครองและผู้ดูแล และแก้ไขความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กได้อย่างตรงจุด
• เป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบการช่วยเหลือ (Intervention): ข้อมูลที่ได้จาก SPEAK สามารถนำมาใช้ในการออกแบบคู่มือหรือสื่อการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็ก ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมทางภาษาที่มีคุณภาพสูงขึ้นในบ้านและสถานเลี้ยงดูเด็ก และท้ายที่สุดจะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางสติปัญญาและภาษาที่ดีขึ้น

• ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้อง: มอบความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นให้กับผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาภาษาและสติปัญญาของเด็ก
• ลดความเหลื่อมล้ำ: ผลักดันให้เกิดการเข้าถึงความรู้ ข้อมูลและทรัพยากรที่มีคุณภาพ เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางภาษาและโอกาสในการเรียนรู้ตั้งแต่ช่วงปฐมวัย
• สร้างครูมืออาชีพที่ใช้ความรู้เป็นฐานในการปฏิบัติงาน (Knowledge-Based Practitioner): คณะฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการนำ เครื่องมือที่มีมาตรฐานและมีงานวิจัยรับรองในระดับสากล เช่น SPEAK มาบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาของเราซึ่งจะเป็นครูปฐมวัยมืออาชีพในอนาคต มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน สามารถนำความรู้เชิงวิชาการที่แข็งแกร่งไปปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการดูแลเด็กได้อย่างมืออาชีพ สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่อิงหลักฐานทางวิชาการ (evidence-based) และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กแต่ละคนได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในการผลิตบัณฑิตคุณภาพเพื่อตอบโจทย์สังคมและเศรษฐกิจ

เอกสารอ้างอิง
Suskind, D., Leffel, K., Hundley, R., Britto, P., & Weber, A. (2018). The Survey of Parent/Provider Expectations and Knowledge (SPEAK). First Language, 38(3), 312–331.

ผู้เขียน : อาจารย์ ดร.วราบุษ ศุภลักษณ์บันลือ

📱สนใจสมัครเรียนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ:
– คณะการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
– โทร: 02-6976664-5
– เว็บไซต์: https://ece.utcc.ac.th
– Facebook: https://www.facebook.com/EarlyChildhoodUTCC
– Instagram: ece.utcc
– TikTok: ece.utcc

#อยากเป็นครู #ศึกษาศาสตร์ #ม.เอกชน #ครูปฐมวัย #ครูอนุบาล #เรียนต่อปริญญาตรี #UTCC #การศึกษาไทย